ฝีมะม่วง เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ้าง จะเจอน้อยกว่าโรคหนองในแท้ หนองในเทียม และซิฟิลิส
ฝีมะม่วง เกิดจากอะไร
ฝีมะม่วง เกิดจาก เชื้อคลามีเดียทราโคมาติส ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อหรือสัมผัสถูกหนองของฝีมะม่วงโดยตรง
ฝีมะม่วง อาการยังไง?
อาการของฝีมะม่วง
–เริ่มแรกจะมีตุ่มนูน ตุ่มใส หรือมีแผลเล็กๆที่อวัยวะเพศ และหายเองใน 2-3 วัน โดยที่บางทีผู้ป่วยไม่ได้สังเกตเห็น
–ระยะต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโตติดกันเป็นก้อนฝีขนาดใหญ่ และก็เจ็บมาก ตรงกลางเป็นร่องพังผืดคล้ายร่องของมะม่วงอกร่อง เราเลยเรียกโรคนี้ว่าฝีมะม่วง ซึ่งอาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
-ผิวบริเวณที่เป็นฝีจะมีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ร่วมด้วย
-บางคนปวดฝีมากจนเดินไม่ได้เลย
-บางคนจะมีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดข้อ ตาอักเสบ ผื่นขึ้นตามตัว
-ฝีมะม่วงจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
วิธีการรักษาฝีมะม่วง
-หากมีอาการปวดให้ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล และให้ประคบน้ำอุ่น
-ให้ทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น
Tetracycline 250mg ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 4ครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
หรือ Doxycycline 100mg ทานครั้งละ 1เม็ด หลังอาหารเช้า เย็น นาน 14 วัน
ยาทั้งสองนี้ห้ามทานพร้อมกับนมและยาลดกรด
และต้องไม่ได้แพ้ยา 2 ตัวนี้นะคะ
-หลังจากรักษา 3 เดือน ควรตรวจเลือดหา VDRL และ เชื้อ HIV ด้วยนะคะ
วิธีการป้องกันฝีมะม่วง
จะเหมือนกันกับการป้องกันแผลริมอ่อน
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ
FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/
บทความโดย ภญ.ยุพเรศ ภัทรอนันต์พงศ์