เมื่ออายุมากขึ้นหลายคนก็เริ่มที่จะมีอาการปวดข้อเข่าตามมา ซึ่งมีตั้งแต่ปวดเล็กน้อยจนกระทั่งถึงขั้นปวดมากจนแทบเคลื่อนไหวไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีการบรรเทาและรักษาที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการใช้สมุนไพรนั่นเอง
อาหารหรือสมุนไพรสำหรับการรักษาโรคข้ออักเสบโดยเฉพาะนั้น อาจจะมีหลักฐานงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ทำกันไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีสมุนไพรและอาหารที่มีงานวิจัยระบุว่าสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้อยู่หลายตัวซึ่งจะยกตัวอย่างมาดังนี้
ขิง: คุณสมบัติต้านการอักเสบที่อาจช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ ประกอบด้วยสารประกอบเช่น gingerols และ shogaols ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวด อาจช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและบวมที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ (ref)
สารออกฤทธิ์: Gingerols, shogaols
————————————————————–
ขมิ้น: ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์เคอร์คูมินซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดอาการปวดข้อและข้อแข็ง รวมทั้งชะลอความเสียหายของข้อที่เกิดจากโรคข้ออักเสบ (ref)
สารออกฤทธิ์: เคอร์คูมิน
———————————————————————————
กรดไขมันโอเมก้า 3: พบในปลาที่มีไขมันสูง กรดไขมันเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดข้อที่เกิดจากโรคข้ออักเสบ แหล่งอาหารที่ดี ได้แก่ ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน (ref)
สารออกฤทธิ์: กรดไขมันโอเมก้า 3 (กรดไอโคซาเพนตะอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA))
วิตามินดี: วิตามินดีมีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก และการขาดวิตามินดีอาจนำไปสู่อาการปวดข้อและกล้ามเนื้ออ่อนแรง แสงแดดเป็นแหล่งหลักของวิตามินดี แต่ก็สามารถได้รับจากอาหาร เช่น ปลาที่มีไขมัน ไข่แดง และเห็ด (ref)
สารออกฤทธิ์: วิตามินดี
ผักและผลไม้: อาหารเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบสูงซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดข้อและบวมได้ ตัวเลือกที่ดีที่สุด ได้แก่ เชอร์รี่ เบอร์รี่ ผักใบเขียว และผักหลากสีสัน เช่น แครอท พริกหยวก และมะเขือเทศ
สารออกฤทธิ์: สารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามินซีและอี), สารต้านการอักเสบ (แอนโธไซยานิน, แคโรทีนอยด์, ฟลาโวนอยด์)
สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนที่จะทานเพื่อหวังผลในการรักษา และสมุนไพรบางชนิดสามารถทำปฏิกิริยากับยาได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอย่างมากหากคุณรับประทานยาบางชนิดเป็นประจำนะคะ
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ
FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/
Youtube https://www.youtube.com/@user-yl5kh1ik7m
บทความโดย ภญ.ยุพเรศ ภัทรอนันต์พงศ์