หากใครที่เคยได้ยินเกี่ยวกับโรคเก๊าท์ไม่ว่าจะคนในครอบครัวเป็นเก๊าท์และกลัวว่าจะเป็นเหมือนกัน วันนี้หมอยาอยากเล่าจะมาเล่าให้ฟังว่าโรคเก๊าท์เกิดจากสาเหตุอะไร ถ้ามีอาการแบบนี้จะใช่โรคเก๊าท์รึป่าว อาหารไรบ้างนะที่ห้ามกิน และโรคเก๊าท์รักษาหายไหม
โรคเก๊าท์ (Gout) มีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง
1.ส่วนมากเกิดจากร่างกายสร้างกรดยูริกมากเกินไป เนื่องจากความผิดปกติจากกรรมพันธุ์ ส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าพ่อแม่ คนในครอบครัวเป็นโรคเก๊าท์ด้วย
(ขอแวะมาเล่านิดนึงนะคะว่า กรดยูริกมาจากไหน กรดยูริกเป็นสารชนิดหนึงที่เกิดจากการเผาผลาญสารเพียวรีน ซึ่งเพียวรีน purine มีมากในเครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ ถั่วต่างๆ พืชผักหน่ออ่อน หรือผักยอดอ่อน ซึ่งคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคเก๊าท์ กรดยูริกจะถูกขับออกทางไต)
2.เกิดจากความผิดปกติของไตขับกรดยูริกได้น้อยลงเช่นภาวะไตวาย ทำให้กรดยูริกคั่งตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ตามข้อ ผิวหนัง ไต
3.เกิดจากร่างกายมีการสลายตัวของเซลล์มากเกินไป เช่นผู้ที่เป็นโรคทาลัสซีเมีย มะเร็งเม็ดเลือดขาว ผู้ที่ฉายแสงหรือใช้ยารักษามะเร็ง
โรคเก๊าท์มีอาการยังไง
1.ปวด บวม แดง ร้อน ที่ข้อรุนแรง(ข้ออักเสบ) จะเกิดขึ้นเฉียบพลัน มักจะปวดกลางคืนหรือหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์
2.อาจจะมีไข้ หนาวสั่น ใจสั่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
3.อาการปวดข้อเริ่มเป็นครั้งแรกอาจจะหายเองได้ และอาจจะเป็นอีกทุก 1-2 ปี และเริ่มแรกก็จะเป็น 2-3 ข้อ ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็น ข้อมือ ข้อศอก ข้อเข่า ข้อเท้า นิ้วเท้า นิ้วมือ) และจะเริ่มเป็นถี่ขึ้นเรื่อยและเป็นหลายข้อมากขึ้น จนเกือบทุกข้อ
4.อาการโรคเก๊าท์ระยะหลังคือ มีข้ออักเสบหลายข้อ และจะมีปุ่มก้อนขึ้นบริเวณที่มีการปวดอักเสบบ่อยๆ เรียกว่าตุ่มไทฟัส (tophus/tophi) ซึ่งตุ่มนี้จะอุดมไปด้วยกรดยูริก และตุ่มจะโตขึ้นเรื่อยๆจนแตกออกเป็นสีขาวๆคล้ายยาสีฟันไหลออกมากลายเป็นแผลเรื้อรัง จนทำให้ข้อพิการ และใช้งานไม่ได้
อาการแทรกซ้อนที่คนเป็นโรคเก๊าท์ไม่ค่อยรู้ หากไม่รักษาคือ
1.ข้อพิการ
2.นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
โรคเก๊าท์ห้ามกินอะไรบ้าง
1.งดเหล้า เบียร์
2.อาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เครื่องในสัตว์ทุกชนิด กะปิ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อไก่ กุ้ง หอย กุนเชียง ไส้กรอก ปลาซาร์ดีน ไข่แมงดา ชะอม กระถิน แตงกวา หน่อไม้ หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด ดอกกะหล่ำ ถั่วต่างๆ ถั่วงอก ยอดแค ดอกสะเดา สาหร่าย ยอดผักต่างๆ
3.ยาแอสไพริน และยาขับปัสสาวะไทอาไซด์ เพราะยานี้ทำให้ร่างกายขับยูริกได้น้อยลง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร หากซื้อยาทานต้องแจ้งว่าเป็นโรคเก๊าท์
พออ่านอาหารที่ห้ามทานคงจะมีคนอยากจะถามว่าจะทานเนื้อสัตว์อะไรได้บ้าง
ต้องบอกนะคะว่า ถ้ากินยาลดกรดยูริกเป็นประจำทุกวัน ไม่มีอาการปวดข้อ ก็ไม่ต้องงดอาหารที่บอกมาอย่างเคร่งครัดนะคะ
แนะนำเพิ่มเติมนะคะควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 3 ลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วที่ไต
โรคเก๊าท์กินยาอะไรหาย รักษาหายไหม
1.ถ้ามีอาการปวดข้อ ให้กินยาลดข้ออักเสบ ตัวยา colchicine 0.5 มิลลิกรัม ครั้งแรกทาน 1-2 เม็ด ถ้ายังไม่หายให้ทานซ้ำอีก 1 เม็ด ทุกชั่วโมงเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ถ้ายังไม่หายอีกให้ทาน 1 เม็ด ทุก 2 ชั่วโมง จนกว่าจะหายปวด วันหนึ่งห้ามทานเกิน16 เม็ด หรือจนกว่าจะท้องเสีย ให้หยุดยาเลยนะคะ
2.ถ้าหากหายา colchicine ไม่ได้ให้ทานยาแก้ปวดลดอักเสบแบบไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น Etoricoxib เป็นตัวยาไม่กัดกระเพาะก็จะดีหน่อย ราคาจะสูงหน่อย แต่กินแค่วันละเม็ดนะคะ
3.ให้ประคบอุ่นจัดๆที่ข้อที่ปวด และดื่มน้ำมากๆ
4.เจาะเลือดที่โรงพยาบาลเพื่อหาค่าระดับกรดยูริกในเลือด หากค่ากรดยูริกมากกว่าปกติ (ค่าปกติ 3-7 มิลลิกรัมต่อเลือด 100มิลลิลิตร) ก็ควรทานยาลดการสร้างกรดยูริก เช่น ยาallopurinol วันละ 200-300มิลลิกรัมขึ้นกับปริมาณระดับกรดยูริกในเลือดซึ่งแพทย์จะเป็นคนสั่งจ่ายให้และให้กลับไปวัดค่ากรดยูริกในเลือดที่โรงพยาบาลเพื่อดูว่าระดับยานั้นเพียงพอหรือไม่
ยาallopurinol มีข้อควรรู้ก่อนทานยาดังนี้
1.ยาตัวนี้หากทานแล้วมีอาการผื่นคันตามตัว ให้หยุดยาทันที และหากทานยาamoxicillin หรือ ampicillin จะเพิ่มความเสี่ยงให้มีผื่นคันมากขึ้น
2.ยาallopurinolอาจจะทำให้ตับอักเสบได้
3.ถ้าเป็นผู้ป่วยโรคไตต้องปรับขนาดยาและต้องระวังการใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรนะคะ
2.ตัวยาขับกรดยูริก เช่นตัวยา probenecid ขนาดยาที่แนะนำคือ 1-2 เม็ดต่อวัน
ทานยานี้ควรจะดื่มน้ำมากๆประมาณวันละ 3 ลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วในไต เพราะฉะนั้นยานี้ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในไต หรือไตวาย
ดังนั้นหากทานยาลดการสร้างกรดยูริกหรือยาขับกรดยูริกซึ่งขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์และเภสัชกรพิจารณาจากโรคประจำตัวที่เป็นนะคะ
หากว่าผู้ป่วยโรคเก๊าท์ทานยาประจำก็สามารถลดการสะสมของยูริกตามข้อได้ รวมถึงจะทำให้ตุ่มไทฟัสยุบลงจนหายไปได้ ก็สามารถที่จะทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์และเครื่องในได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องงดไปเลยแต่ก็ไม่ได้ให้ทานเยอะจนเกินไปนะคะ
ตอบคำถามยอดฮิตของผผู้ป่วยโรคเก๊าท์นะคะ
คำถาม จะต้องเริ่มทานยาลดกรดยูริกเมื่อไหร่
ตอบ หากตรวจเลือดแล้วมีค่ากรดยูริกสูงเกิน 12 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 มิลลิลิตร ถึงแม้ว่าจะไม่มีอาการปวดข้อก็ตาม ก็ควรกินยาลดกรดยูริกประจำนะคะ
คำถาม โรคเก๊าท์รักษาหายไหม
ตอบ โรคเก๊าท์รักษาหายจากอาการปวดข้อได้นะคะ แต่ว่าจะหายขาดได้ถ้าเราไม่ทานอาหารที่ทำให้กรดยูริกสูงนะคะ แต่เมื่อไหร่ทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง และไม่ได้ทานยาลดการสร้างกรดยูริก ก็อาจจะมีการสะสมของกรดยูริกตามข้อและทำให้มีอาการปวดข้อได้นะคะ
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ

FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/
บทความโดย ภญ.ยุพเรศ ภัทรอนันต์พงศ์