หากใครมีอาการทางหู ไม่ว่าจะปวดหู หูอื้อ มีน้ำหนองไหลจากหู เวียนหัว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จะใช้ยาอะไรดี ลองอ่านดูนะคะ
หูชั้นนอกอักเสบ
อาการ
1.ปวดในรูหู
2.อาจมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลออกมาจากหู
3.บางคนจะมีอาการหูอื้อ
4.บางคนมีไข้ด้วย
และอาการที่สำคัญเบื้องต้นที่ใช้แยกว่าเป็นหูชั้นนอกอักเสบหรือหูชั้นในอักเสบก็คือ เมื่อดึงใบหูแรงๆจะทำให้เจ็บในรูหูมากขึ้น แต่ถ้าดึงใบหูแล้วไม่เจ็บแสดงว่าไม่ใช่หูชั้นนอกอักเสบนะคะ
หากตรวจด้วยเครื่องส่องหู otoscope จะเห็นการอักเสบหรือฝีในรูหู แต่เยื่อแก้วหูปกติ ไม่มีการทะลุใดๆ
หากหูชั้นนอกอักเสบรุนแรงคือ มีอาการปวดหูมาก หนองไหล มีกลิ่นเหม็น หูตึง ปากเบี้ยว ควรที่จะต้องตรวจเลือดดูว่าเป็นเบาหวาน หรือ โรคเอดส์หรือเปล่า
การรักษาโดยใช้ยา
1.หากมีอาการปวดหูให้ทานยาแก้ปวดลดอักเสบแบบไม่ใช่สเตียรอยด์ สำหรับคนที่ไม่ได้แพ้ยากลุ่มนี้นะคะ หากแพ้ยากลุ่มนี้และไม่แพ้พาราเซตามอลก็ใช้พาราเซตามอลได้ค่ะ
2.ทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะ เช่น Dicloxcillin 500mg ทานครั้งละ 1เม็ด ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน นาน 7 วัน แนะนำควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทานยาทุกครั้งนะคะ ไม่ควรซื้อมาทานเองนะคะ เนื่องจากปริมาณยาที่ต้องทานของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันนะคะ
3.ถ้าปวดหูมากแนะนำให้หยอดหูด้วยยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น dexamethazone ผสม neomycin หยอดครั้งละ 3-4 หยด วันละ 2-3ครั้ง หากเปิดขวดแล้วจะหมดอายุภายใน 1เดือนเท่านั้น สารกันเสียที่อยู่ในขวดจะหมดอายุนะคะ และถ้ามีหนองไหลจากหูต้องใช้ไม้พันสำลีหรือ ที่เราเรียกติดปากว่า cotton bud เช็ดหนองออกมาก่อนหยอดยานะคะ
การรักษาแบบไม่ใช้ยา
1.ห้ามเล่นน้ำ ว่ายน้ำ
2.ไม่ให้น้ำเข้าหู
หูชั้นกลางอักเสบ
มีทั้งหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน และหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน มีสาเหตุจาก
1.เกิดหลังจากเป็นหวัด เจ็บคอ ทอลซินอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ หรือเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ทำให้เชื้อโรคจากคอผ่านท่อยูสเตเชียนเข้าไปที่หูชั้นกลาง เกิดการอักเสบ ท่อยูเตเชียนบวม หนองขังอยู่ในหูชั้นกลาง
2.เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการอักเสบของหูชั้นกลางคือ beta-streptococcus, staphylococcus, pneumococcus, Hemophilus influenzae ,pseudomonas
อาการของหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน
1.ปวดในรูหู แต่ดึงใบหูแล้วไม่เจ็บหู ส่องด้วยเเครื่องส่องหูจะเห็นเยื่อแก้วหูโป่งออก เป็นสีแดงระเรื่อๆ
2.หูอื้อ
3.มีไข้สูง หนาวสั่น
4.บางคนจะมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
การรักษา
1.ทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น amoxicillin ,amoxicillin+clavulonic acid ทานต่อเนื่องนาน 10วัน
2.หากทานยาครบ 10วันแล้วไม่ดีขึ้นควรไปโรงพยาบาล คุณหมออาจจะต้องใช้เข็มระบายหนองออกจากเยื่อแก้วหู เรียกวิธีนี้ว่า myringotomy หลังจากเจาะเยื่อแก้วหูแล้วเยื่อแก้วหูจะปิดเองใน 1-2สัปดาห์
หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
หรือที่เรารู้จักกันว่า หูน้ำหนวกเรื้อรัง คือเยื่อแก้วหูทะลุและมีน้ำหนวกไหลแบบเรื้อรัง
สาเหตุ
1.อาจจะเป็นผลมาจากหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน
2.ได้รับบาดเจ็บจนแก้วหูทะลุ
3.เกิดจากเป็นทอลซิลอักเสบเรื้อรัง ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ผังกั้นจมูกคด ติ่งเนื้อเมือกจมูก
อาการของหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
1.ส่องดูด้วยเครื่องส่องหูพบเยื่อแก้วหูทะลุเป็นรูกว้าง
2.หูน้ำหนวกไหลเป็นๆหายๆ
3.บางรายมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
4.ไม่มีไข้ หรือเจ็บปวดหู
การรักษาโดยใช้ยา
1.ใช้cotton bud เช็ดหนองที่ไหลออกมาให้แห้งก่อน แล้วใช้ยาหยอดหูที่เป็นตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น tobramycin,Levofloxacin หยอดวันละ 3-4ครั้ง จนกว่าหนองจะแห้ง
2.ถ้ามีการอักเสบเฉียบพลัยนขึ้นมาก็ทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น amoxicillin ,amoxicillin+clavulonic acid ทานต่อเนื่องนาน 10วัน
ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทานยาทุกครั้งนะคะ ไม่ควรซื้อมาทานเองนะคะ เนื่องจากปริมาณยาที่ต้องทานของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันนะคะ
หากรักษาตามข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้นใน 1-2สัปดาห์ให้ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุโดยการเอกซเรย์หรือการตรวจพิเศษอื่นๆ หากพบว่าเกิดจากสาเหตุใดก็ต้องรักษาจากสาเหตุนั้น เช่น ไซนัสอักเสบ ทอลซิลอักเสบ
และต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าหู ไม่วายน้ำ ไม่ดำน้ำ ไม่เล่นน้ำจนกว่าจะหายนะคะ
หูชั้นในอักเสบ
หูชั้นในประกอบด้วยหลอดกึ่งวง 3อัน ซึ่งทำหน้าที่ทรงตัว
หูชั้นในอักเสบ มีสาเหตุมาจาก
1.ติดเชื้อไวรัส ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเช่นหวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือคางทูม แพร่กระจายผ่านมาทางจมูก และคอมาถึงหู
2.เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนที่ลามมาจากหูชั้นกลางอักเสบ
อาการของหูชั้นในอักเสบ
1.วิงเวียน บ้านหมุน
2.คลื่นไส้ อาเจียน อการจะเกิดเวลาลุกขึ้น หรือลงนอน ก้มหรือเงยหน้า
3.ตากระตุก เดินเซ
4.บางคนวิงเวียนมากจนขับรถรือทำงานไม่ได้
การรักษาหูชันในอักเสบ
ปกติแล้วอาการจะหายขาดได้เองภายใน 3 สัปดาห์ แต่ว่ามีอาการวิงเวียนมากให้นอนพักนิ่งๆ แล้วก็ให้ทานยา dimenhydranate ครั้งละ 1-2เม็ด วันละ 2-4ครั้ง
หากมีอาการหูชั้นกลางอักเสบด้วย ให้รักษาหูชั้นกลางอักเสบตมด้านบนร่วมด้วยนะคะ
แต่ถ้ารักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้นใน 1สัปดาห์หรือมีอาการเดนเซ ตากระตุก แขนขาอ่อนแรง อาเจียนรุนแรง ความดันโลหิตสูง ควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นด้วยนะคะ
สรุปข้อสังเกตหลักๆนะคะ
หากดึงใบหูแล้วมีอาการเจ็บในรูหู คือหูชั้นนอกอักเสบ
แต่ถ้าปวดในรูหูแต่ถ้าดึงใบหูแล้วไม่เจ็บหู คือหูชั้นกลางอักเสบถ้าส่องด้วยเครื่องส่องหูจะเห็นเยื่อแก้วหูโป่งแดง
ถ้าหูชั้นในอักเสบจะมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว เดินเซ ตากระตุกนะคะ
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ

FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/
หน้าร้าน : https://g.page/rukya8?share
บทความโดย ภญ.ยุพเรศ ภัทรอนันต์พงศ์