fbpx
Wednesday, 4 September 2024

กระเพาะปัสสาวะอักเสบมีอาการอย่างไร และ ใช้ยาอะไรรักษา

กระเพาะปัสสาวะอักเสบจะเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นและมีโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเข้าทางท่อปัสสาวะของผู้หญิงง่ายกว่าผู้ชาย

สาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

1.เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีในลำไส้ของเรา และยังพบแบคทีเรียบริเวณทวารหนัก ดังนั้นเวลาถ่ายอุจจาระ หรือปัสสาวะ อาจจะมีการปนเปื้อนเข้ามาในกระเพาะปัสสาวะ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการ

2.เกิดจากการฟกช้ำจากการมีเพศสัมพันธ์แล้วมีการอักเสบของท่อปัสสาวะ

3.เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต ผู้ป่วยที่ถ่ายปัสสาวะไม่ได้เนื่องจากเป็นอัมพาต หรือจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบหลังจากสวนปัสสาวะ

จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ?

กระเพาะปัสสาวะอักเสบจะมีอาการปัสสาวะกะปริดกะปรอย คือ

1.ปัสสาวะไม่สุด ออกทีละน้อย

2.จะมีอาการปวดขัด ปวดแสบเวลาถ่ายปัสสาวะ บางคนอาจจะมีอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อยด้วย

3.ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็น ส่วนใหญ่จะสีใส แต่บางคนอาจจะขุ่นและมีเลือดปน

4.อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบสำหรับเด็กเล็กจะอาการปัสสาวะรดที่นอน อาจจะมีไข้ เบื่ออาหาร และ อาเจียน

อาการมักจะเกิดหลังอั้นปัสสาวะนานๆ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์

หากปล่อยให้เป็นเรื้อรัง และไม่รักษาเชื้อแบคทีเรียอาจลุกลามไปที่ไต กลายเป็นกรวยไตอักเสบได้ ส่วนผู้ชายอาจจะลุกลามไปทำให้เป็นต่อมลูกหมากอักเสบได้

กระเพาะปัสสาวะอักเสบจะรักษายังไง?

เริ่มจากการรักษาง่ายๆให้ดื่มน้ำมากๆขณะที่มีอาการ และแนะนำหากเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยให้ดื่มน้ำวันละ 3-4 ลิตร เพื่อช่วยขับเชื้อออก และยังช่วยลดการปวดแสบเวลาปัสสาวะด้วยค่ะ

ยาที่ใช้รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบคือ

ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่น ตัวยา norfloxacin 400mg ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง นาน 4 วัน (ยากลุ่มนี้ไม่ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี นะคะ) หากอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถใช้ยา amoxicillin 500mg หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น อย่างน้อย 5 วันได้นะคะ

หากปวดให้ทานยาแก้ปวด เช่นพาราเซตามอล หรือหากปวดมากให้ทานยาแก้ปวดลดอักเสบแบบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ได้ เช่นตัวยา ibuprofen ตัวยากลุ่มนี้ห้ามทานในผู้ที่แพ้ยานี้ ห้ามทานในผู้ป่วยหอบหืด ผู้ป่วยโรคหัวใจ และ ไต ควรหลีกเลี่ยงนะคะ หากจะทานให้ปรึกษาเภสัชกรก่อนทุกครั้งนะคะ

หากทานยาแล้วไม่ดีขึ้นหรือเป็นซ้ำมากกว่า 2-3 ครั้ง หรือพบในผู้ชาย ควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจปัสสาวะหาสาเหตุ เพาะหาเชื้อ เอกซเรย์ หรือส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ และทำการรักษาตามสาเหตุที่พบต่อไปค่ะ

เรามาดูวิธีการป้องกันดีกว่านะคะ เพื่อให้ไม่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆค่ะ

1.ให้ดื่มน้ำมากๆและอย่าอั้นปัสสาวะ พยายามเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่ปวดก็ให้เข้าให้เป็นนิสัย

2.เวลาถ่ายอุจจาระให้เช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ

3.หากจะป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหลังมีเพศสัมพันธ์ ให้ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมีเพศสัมพันธ์ และ หลังมีเพศสัมพันธ์ควรถ่ายปัสสาวะทันที

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ

ไข่ดัน

FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/

สามารถติดตามหมอยาอยากเล่าได้ทาง youtubehttps://www.youtube.com/channel/UCVFagi33TD86ZSaWsPUXwew

บทความโดย ภญ.ยุพเรศ  ภัทรอนันต์พงศ์

เลขใบประกอบวิชาชีพ ภ.24887

ติดต่อได้เลยค่ะ