fbpx
Thursday, 3 October 2024

โรคหวัด โรคฮิตสำหรับเด็กๆช่วงวัยเริ่มเข้าอนุบาล

 

ใกล้จะถึงฤดูแห่งการเปิดเทอม เด็กๆที่กำลังจะเข้าเรียนเป็นครั้งแรก เพิ่งเริ่มเข้าอนุบาล วัยนี้จะเป็นวัยที่ป่วยบ่อยมาก  จากตอนแรกเป็นเด็กที่แข็งแรงไม่ค่อยป่วย แต่พอไปโรงเรียน เจอเพื่อนเท่านั้นแหละ ป่วยบ่อยเลย  เรามาดูสาเหตุของการเป็นหวัด อาการ และวิธีดูแลเบื้องต้นนะคะ

หวัดจะเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส พบบ่อยมากในวันเด็กเล็ก ดูจะเป็นเรื่องปกติมากที่เด็กเล็กจะเป็นหวัดปีละ 8 ครั้งขึ้นไป

                สาเหตุที่เด็กเล็กจะเป็นหวัด

นั่นก็เป็นเพราะ เด็กที่เพิ่งออกจากอ้อมอกแม่ ไปเจอเพื่อนๆ ไปเจอสังคมภายนอก ในโรงเรียนมีเด็กจำนวนมากที่อาจจะเป็นหวัด และหวัดเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งติดเชื้อโดยการไอ จาม และสัมผัสกับสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสจากการที่มีเด็กคนอื่นจามแล้วไปป้าย ไปจับของเล่นเด็ก เลยทำให้เด็กเล็กๆอายุ 2-3 ปีติดหวัดได้ง่ายมาก บางคนเป็นหวัดทุกเดือน แต่พอโตขึ้นมีภูมิคุ้มกัน คือเคยได้รับเชื้อไวรัสนี้แล้วร่างกายจะสร้างแอนตี้บอดี้ต่อเชื้อไวรัสชนิดนี้ขึ้นมา ก็จะทำให้เป็นหวัดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าจะเป็นอีกก็จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นค่ะ

                อาการและยารักษาของโรคหวัด

อาการหวัด

  • น้ำมูกไหล ให้ใช้น้ำเกลือล้างจมูกแต่ต้องระวังเด็กสำลัก ถ้าเป็นเด็กเล็กมากๆแนะนำให้ใช้เป็นน้ำเกลือแบบพ่นจมูก เช่นยี่ห้อ Mar Plus แล้วใช้ยางดูดน้ำมูกดูดน้ำมูกออกได้เลยค่ะ และ ใช้ petroleum jelly (เช่น ยี่ห้อ vasaline) ทาบนจมูกป้องกันการเจ็บหากเช็ดน้ำมูกบ่อยๆด้วยนะคะ

(Mar Plus เป็นน้ำเกลือทะเล ผสม Dexpanthanol ซึ่งช่วยรักษาเยื่อบุโพรงจมูกได้ด้วย จะเหมาะมากกับเด็กที่เป็นหวัดบ่อยๆ หรือเป็นภูมิแพ้)

หากเป็นเด็กที่อายุเกิน 2 ขวบแล้วมีน้ำมูกไหลใสๆมากๆ อาจให้ทานยา Antihistamine (เช่นตัวยา Cetirizine dihydrochloride )ได้ค่ะ

  • จาม หรือ ไอ ก่อนอื่นต้องสอนให้เด็กปิดปากเวลาจาม หรือ ไอ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคไปสู่คนอื่น และอาจจะให้ทานยาแก้ไอ เช่น ตัวยา carbocysteine ,bromhexine หรือ ambroxol เพื่อช่วยละลายเสมหะ ลดการข้นเหนียวของเสมหะ และไอ ขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น ยากลุ่มนี้ไม่ได้ลดอาการไอแต่จะช่วยทำให้อาการไอที่เกิดจากการมีเสมหะอยู่ในลำคอ หรือตามแขนงปอดถูกขจัดออกมาได้ค่ะ
  • ปวดหัว มีไข้ หากจะบอกได้ว่าเด็กมีไข้รึป่าว เราจะไม่สามารถวัดได้จากการเอามือแตะหน้าผากนะคะ ควรที่จะใช้ปรอทวัดไข้ค่ะ ปกติอุณหภูมิของร่างกายคนเราจะอยู่ที่ 36.0 – 37.5 องศาเซลเซียส ถ้าวัดไข้แล้วการที่จะบอกว่ามีไข้ต่ำๆ หรือมีไข้สูงเราดูจากปรอทวัดไข้ ถ้าอุณหภูมิที่วัดได้อยู่ระหว่าง 37.6 – 38.4 องศาเซลเซียส จัดว่ามีไข้ต่ำ ถ้าอุณหภูมิที่วัดได้ตั้งแต่ 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จัดว่ามีไข้สูง  วิธีการรักษาให้ทานยาพาราเซตามอลได้ โดยให้ทานตามน้ำหนักตัวเด็ก ไม่ได้ทานตามอายุนะคะ ขนาดของการทานยา 10mg/kg/dose หากคำนวณไม่เป็นแนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรที่ร้านยาได้เลยนะคะ และให้เช็ดตัวเด็กโดยใช้น้ำอุณหภูมิปกติ เช็ดขึ้นย้อนรูขุมขนนะคะ

  • เจ็บคอ รักษาเบื้องต้นโดยให้รับประทานอาหารรสอ่อน ๆ และดื่มน้ำหวานบ่อย ๆ เนื่องจากเด็กจะเจ็บคอมากทำให้รับประทานได้น้อย และกลั้วคอทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ วันละ 2-3 ครั้งค่ะ  แต่หากว่ามีอาการเจ็บคอมาก เป็นหวัดมามากกว่า 4 วัน อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อวินิจฉัยและรับยาปฎิชีวนะหากมีอาการคออักเสบ และต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

ปกติอาการหวัดจะหายเองได้ใน 7 วัน ถ้าไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนนะคะ

อย่าลืมสอนให้เด็กๆเวลาจามให้ปิดจมูกและปาก และถ้าหากเอาน้ำมูกหรือน้ำลายไปป้ายของเล่นหรือของใช้ส่วนรวม แล้วก็อย่าลืมล้างมือให้สะอาดหลังเล่นของเล่น และก่อนทานอาหารด้วยนะคะ

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ

FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/

บทความโดย ภญ.ยุพเรศ  ภัทรอนันต์พงศ์

เลขใบประกอบวิชาชีพ ภ.24887

ติดต่อได้เลยค่ะ