มีหลายคำถามที่ถามเข้ามาทางไลน์ของหมอยาอยากเล่า วันนี้หมอยาจะขอมาตอบคำถามที่มีคนถามเข้ามานะคะ และบอกวิธีเลือกขนาดถุงยางด้วยนะคะ
ก่อนอื่นเราต้องมาบอกข้อดีของถุงยางอนามัยก่อนนะคะ
ถุงยางอนามัย นอกจากใช้ป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม แผลริมอ่อน ซิฟิลิส เริม
คำถามเกี่ยวกับถุงยางแตกที่คนถามบ่อยมากๆ
คำถาม ทานยาคุมทุกวันอยู่แต่เวลามีเพศสัมพันธ์ป้องกันโดยใส่ถุงยางด้วย แต่ถุงยางแตกจะต้องกินยาคุมฉุกเฉินหรือไม่
คำตอบ หากทานยาคุมมาหลายเดือนแล้วหรือว่าทานเดือนแรกแล้วเกิน14 วันแรกแล้ว ทานยาคุมอย่างถูกวิธีแล้ว สามารถคุมได้แล้วนะคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ ไม่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินนะคะ. แต่หากว่าทานยาคุมเป็นแผงแรกและทานยังไม่ถึง14วัน ยังคุมไม่ได้ก็ต้องทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ
คำถาม ถุงยางแตก ต้องทำยังไง
คำตอบ ถุงยางแตกต้องทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ ต้องทานหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยวิธีการทานยาคุมฉุกเฉินตามลิงค์นี้นะคะ
คำถามยอดฮิตอีกคำถามคือ หากถุงยางแตก กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์อีกแบบไม่ได้ป้องกัน ต้องทานยาคุมฉุกเฉินอีกรึป่าวคะ
คำตอบคือ ต้องกินยาคุมฉุกเฉินอีกนะคะ เพราะว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้ป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ครั้งหน้าได้นะคะ แต่การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆมีผลข้างเคียงที่ต้องรู้นะคะลองกดลิงค์นี้เข้าไปฟังดูนะคะ
มาดูวิธีเลือกขนาดถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางแตกกันนะคะ
เริ่มจากการวัดขนาดอวัยวะเพศชายขณะขยายโดยวัดรอบหน่วยเป็นมิลลิเมตร เช่นถ้าวัดขนาดรอบอวัยวะเพศได้ 52 มิลลิเมตร ให้ซื้อถุงยางขนาด 52 มิลลิเมตรนะคะ หากใส่แน่นเกินไปก็อาจจะทำให้ถุงแตกได้ และหากใส่ขนาดใหญ่ หลวมเกินไปอาจทำให้หลุดได้นะคะ
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยกดลิงค์เข้ามาคุยกันได้นะคะ
FB: https://www.facebook.com/rukyaphama8/
บทความโดย ภญ.ยุพเรศ ภัทรอนันต์พงศ์